8 สัญญาณเตือนว่าคุณเครียดเกินไปแล้ว
คุณกำลังเผชิญภาวะเครียดซ่อนเร้นอยู่หรือไม่? ลองตรวจวัดได้จากสัญญาณเตือนเหล่านี้
1. ผมร่วงผิดปกติ
ปกติเมื่อเส้นผมหมดอายุขัยก็จะหลุดร่วงไป 100-200 เส้นต่อวัน และจากนั้นก็จะมีผมเส้นใหม่ขึ้นมาทดแทน แต่ความเครียดจะรบกวนให้ระบบฮอร์โมนและต่อมต่างๆ แปรปรวน ส่งผลให้เส้นผมหยุดการเจริญเติบโตกะทันหันและหลุดร่วงก่อนเวลาอันควร
ปกติเมื่อเส้นผมหมดอายุขัยก็จะหลุดร่วงไป 100-200 เส้นต่อวัน และจากนั้นก็จะมีผมเส้นใหม่ขึ้นมาทดแทน แต่ความเครียดจะรบกวนให้ระบบฮอร์โมนและต่อมต่างๆ แปรปรวน ส่งผลให้เส้นผมหยุดการเจริญเติบโตกะทันหันและหลุดร่วงก่อนเวลาอันควร
2. ป่วยยาวนานหายช้าผิดปกติ
จากเดิมที่เป็นหวัด ไม่กี่วันก็หาย แต่ครั้งนี้กลับเป็นยาวนานเกินกว่าสัปดาห์ หายช้า อาการไม่ดีขึ้น เพราะความเครียดไปรบกวนระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคอันเป็นสาเหตุของการป่วยได้รวดเร็วเท่าเวลาปกติ
จากเดิมที่เป็นหวัด ไม่กี่วันก็หาย แต่ครั้งนี้กลับเป็นยาวนานเกินกว่าสัปดาห์ หายช้า อาการไม่ดีขึ้น เพราะความเครียดไปรบกวนระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคอันเป็นสาเหตุของการป่วยได้รวดเร็วเท่าเวลาปกติ
3. ระบบทางเดินอาหารแปรปรวน
ความเครียดมีผลกระทบไปถึงการทำงานของสมองในระบบลิมบิกที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และพฤติกรรม ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน รวมถึงโรคลำไส้อักเสบ ท้องเสียสลับท้องผูก
ความเครียดมีผลกระทบไปถึงการทำงานของสมองในระบบลิมบิกที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และพฤติกรรม ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน รวมถึงโรคลำไส้อักเสบ ท้องเสียสลับท้องผูก
4. อาการทางผิวหนัง
ปัญหาผิวหนังที่อาจเกิดจากความเครียด ได้แก่ สิว ตุ่ม ผื่นแดง หรือผื่นลมพิษ รวมไปถึงโรคเริม และโรคสะเก็ดเงิน
ปัญหาผิวหนังที่อาจเกิดจากความเครียด ได้แก่ สิว ตุ่ม ผื่นแดง หรือผื่นลมพิษ รวมไปถึงโรคเริม และโรคสะเก็ดเงิน
5. บาดแผลหายช้า
ความเครียดมีผลทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดไปหล่อเลี้ยงผิวหนังไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้สารอาหารต่างๆ เข้าไปซ่อมแซมบาดแผลได้น้อย บาดแผลจึงหายช้า
ความเครียดมีผลทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดไปหล่อเลี้ยงผิวหนังไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้สารอาหารต่างๆ เข้าไปซ่อมแซมบาดแผลได้น้อย บาดแผลจึงหายช้า
6. หายใจไม่สะดวก
ความเครียดหรือความกดดันระดับสูงมีผลกระทบต่อการกำเริบของโรคหอบหืดให้แสดงอาการถี่ขึ้นกว่าปกติ รวมถึงอาการหายใจไม่อิ่ม หายใจเร็ว หายใจหอบ แน่นหน้าอกในคนปกติที่ไม่ได้เป็นโรคหอบ และอาจรุนแรงถึงมือเท้าเกร็งในผู้เป็นโรคหอบทางอารมณ์
ความเครียดหรือความกดดันระดับสูงมีผลกระทบต่อการกำเริบของโรคหอบหืดให้แสดงอาการถี่ขึ้นกว่าปกติ รวมถึงอาการหายใจไม่อิ่ม หายใจเร็ว หายใจหอบ แน่นหน้าอกในคนปกติที่ไม่ได้เป็นโรคหอบ และอาจรุนแรงถึงมือเท้าเกร็งในผู้เป็นโรคหอบทางอารมณ์
7. ตาเบลอ มองอะไรไม่ชัด
ความเครียดทำให้การไหลเวียนเลือดและสารอาหารไปเลี้ยงดวงตาลดลง ก่อให้เกิดอาการตาแห้ง นอกจากนี้ยังมีผลให้รูม่านตาของเราขยายกว้างออกทำให้การมองเห็นภาพพร่ามัวไม่ชัดเจน
ความเครียดทำให้การไหลเวียนเลือดและสารอาหารไปเลี้ยงดวงตาลดลง ก่อให้เกิดอาการตาแห้ง นอกจากนี้ยังมีผลให้รูม่านตาของเราขยายกว้างออกทำให้การมองเห็นภาพพร่ามัวไม่ชัดเจน
8. น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลง
บางคนเมื่อเครียดจะรู้สึกเบื่ออาหาร ส่งผลให้ร่างกายผอมลงและน้ำหนักลดลง ส่วนบางคนกลับทานมากขึ้นโดยไม่รู้จักอิ่ม ร่างกายมีอัตราการเผาผลาญอาหารลดลง การสะสมของไขมันเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีความเครียดจนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
บางคนเมื่อเครียดจะรู้สึกเบื่ออาหาร ส่งผลให้ร่างกายผอมลงและน้ำหนักลดลง ส่วนบางคนกลับทานมากขึ้นโดยไม่รู้จักอิ่ม ร่างกายมีอัตราการเผาผลาญอาหารลดลง การสะสมของไขมันเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีความเครียดจนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
วิธีป้องกันและผ่อนคลายความเครียดให้กับร่างกาย
1. หลีกเลี่ยงความโกรธ เกลียด การระเบิดอารมณ์อย่างรุนแรง เสริมสร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัวและเพื่อนฝูง
2. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
3. ทานอาหารเสริม เช่น วิตามินและแร่ธาตุรวมชนิดเม็ด วิตามินบีรวม โสมสกัด
4. คลายเครียดด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่ชื่นชอบ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เดินทางท่องเที่ยว
5. ฝึกทำสมาธิเบื้องต้นให้จิตใจสงบ ผ่องใส หลับสบาย คลายเครียด
1. หลีกเลี่ยงความโกรธ เกลียด การระเบิดอารมณ์อย่างรุนแรง เสริมสร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัวและเพื่อนฝูง
2. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
3. ทานอาหารเสริม เช่น วิตามินและแร่ธาตุรวมชนิดเม็ด วิตามินบีรวม โสมสกัด
4. คลายเครียดด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่ชื่นชอบ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เดินทางท่องเที่ยว
5. ฝึกทำสมาธิเบื้องต้นให้จิตใจสงบ ผ่องใส หลับสบาย คลายเครียด
ที่มา นิตยสาร Men’s Health
และ