วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

"8 สัญญาณเตือนว่าคุณเครียดเกินไปแล้ว"

8 สัญญาณเตือนว่าคุณเครียดเกินไปแล้ว
คุณกำลังเผชิญภาวะเครียดซ่อนเร้นอยู่หรือไม่? ลองตรวจวัดได้จากสัญญาณเตือนเหล่านี้
1. ผมร่วงผิดปกติ
ปกติเมื่อเส้นผมหมดอายุขัยก็จะหลุดร่วงไป 100-200 เส้นต่อวัน และจากนั้นก็จะมีผมเส้นใหม่ขึ้นมาทดแทน แต่ความเครียดจะรบกวนให้ระบบฮอร์โมนและต่อมต่างๆ แปรปรวน ส่งผลให้เส้นผมหยุดการเจริญเติบโตกะทันหันและหลุดร่วงก่อนเวลาอันควร
2. ป่วยยาวนานหายช้าผิดปกติ
จากเดิมที่เป็นหวัด ไม่กี่วันก็หาย แต่ครั้งนี้กลับเป็นยาวนานเกินกว่าสัปดาห์ หายช้า อาการไม่ดีขึ้น เพราะความเครียดไปรบกวนระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคอันเป็นสาเหตุของการป่วยได้รวดเร็วเท่าเวลาปกติ
3. ระบบทางเดินอาหารแปรปรวน
ความเครียดมีผลกระทบไปถึงการทำงานของสมองในระบบลิมบิกที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และพฤติกรรม ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน รวมถึงโรคลำไส้อักเสบ ท้องเสียสลับท้องผูก
4. อาการทางผิวหนัง
ปัญหาผิวหนังที่อาจเกิดจากความเครียด ได้แก่ สิว ตุ่ม ผื่นแดง หรือผื่นลมพิษ รวมไปถึงโรคเริม และโรคสะเก็ดเงิน
5. บาดแผลหายช้า
ความเครียดมีผลทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดไปหล่อเลี้ยงผิวหนังไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้สารอาหารต่างๆ เข้าไปซ่อมแซมบาดแผลได้น้อย บาดแผลจึงหายช้า
6. หายใจไม่สะดวก
ความเครียดหรือความกดดันระดับสูงมีผลกระทบต่อการกำเริบของโรคหอบหืดให้แสดงอาการถี่ขึ้นกว่าปกติ รวมถึงอาการหายใจไม่อิ่ม หายใจเร็ว หายใจหอบ แน่นหน้าอกในคนปกติที่ไม่ได้เป็นโรคหอบ และอาจรุนแรงถึงมือเท้าเกร็งในผู้เป็นโรคหอบทางอารมณ์
7. ตาเบลอ มองอะไรไม่ชัด
ความเครียดทำให้การไหลเวียนเลือดและสารอาหารไปเลี้ยงดวงตาลดลง ก่อให้เกิดอาการตาแห้ง นอกจากนี้ยังมีผลให้รูม่านตาของเราขยายกว้างออกทำให้การมองเห็นภาพพร่ามัวไม่ชัดเจน
8. น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลง
บางคนเมื่อเครียดจะรู้สึกเบื่ออาหาร ส่งผลให้ร่างกายผอมลงและน้ำหนักลดลง ส่วนบางคนกลับทานมากขึ้นโดยไม่รู้จักอิ่ม ร่างกายมีอัตราการเผาผลาญอาหารลดลง  การสะสมของไขมันเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีความเครียดจนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
วิธีป้องกันและผ่อนคลายความเครียดให้กับร่างกาย
1. หลีกเลี่ยงความโกรธ เกลียด การระเบิดอารมณ์อย่างรุนแรง เสริมสร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัวและเพื่อนฝูง
2. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
3. ทานอาหารเสริม เช่น วิตามินและแร่ธาตุรวมชนิดเม็ด วิตามินบีรวม โสมสกัด
4. คลายเครียดด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่ชื่นชอบ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เดินทางท่องเที่ยว
5. ฝึกทำสมาธิเบื้องต้นให้จิตใจสงบ ผ่องใส หลับสบาย คลายเครียด
ที่มา นิตยสาร Men’s Health
และ

"5 วิธีง่ายๆดุแลผิวเมื่อเข้าสู่หน้าหนาว"


ช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวอาจจะเป็นช่วงที่หลายคนรอคอย แต่สำหรับอากาศที่หนาวเย็นนั้นแท้จริงแล้ว จะทำให้ผิวหนังมีการสูญเสียน้ำออกไปเพิ่มมากขึ้น เราจึงควรรู้จักดูแลผิวเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว
 อีโมติคอน kiki
5 วิธีดูแลผิว เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว โดย พญ.สรวลัย รักชาติ
1. อาบน้ำไม่ร้อนเกินไป น้ำร้อนจะล้างไขมันตามธรรมชาติของผิวออกไปได้มากกว่าน้ำอุณหภูมิปกติ ทำให้ผิวยิ่งแห้ง

2. ใช้ครีมอาบน้ำสำหรับผิวแห้ง มีส่วนผสมของ Moisturizer เมื่อล้างสบู่ออกแล้ว ยังรู้สึกว่ามีสารเคลือบผิวให้ชุ่มชื้นอยู่

3. ทา Moisturizer หลังอาบน้ำ เช็ดตัวหมาดๆ แล้วทาครีมบำรุงผิวทันที เนื้อครีมจะซึมลงผิวได้ดีกว่าการทาเมื่อผิวแห้งสนิท และยังช่วยให้ผิวอุ้มน้ำได้ดีขึ้น
4. ทากันแดดเป็นประจำทุกวัน แม้จะอากาศเย็นลง แต่ประเทศเรายังคงแดดแรงกว่าประเทศเขตหนาว ยิ่งบางคนอากาศเย็นยิ่งออกไปตากแดดมากขึ้นเพื่อให้อบอุ่น จึงต้องทากันแดดเป็นประจำให้เป็นนิสัย โดยเลือกครีมกันแดดที่ค่า SPF 30 เป็นต้นไป
5. สำหรับผู้สูงอายุที่มีผิวแห้งและบางกว่าปกติหรือผิวแห้งมาก และเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ควรใช้สบู่ให้น้อยลง เช่น อาบน้ำเปล่า ใช้สบู่วันละครั้งและทา Moisturizer หลังอาบน้ำ หรือทาบ่อยๆ เมื่อรู้สึกผิวแห้ง งดการขัดถูที่รุนแรง หรือหลีกเลี่ยงการกระแทกในผิวผู้สูงอายุ เนื่องจากจะทำให้เกิดเลือดออกใต้ผิวหนังได้

ขอบคุณข้อมูลจาก   

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เล็บลายไหมพรมถัก เกร๋ๆสไตล์วินเทอร์


ช่วงนี้หลายๆคนเริ่มค้นคอลเล็คชั่นหน้าหนาวของตัวเองออกมาแล้ว  หนึ่งในนั้นจะต้องมี ‘เสื้อถักไหมพรม’ ตัวโปรดอยู่แน่นอน   ในเมื่อสวมเสื้อถักตัวโปรดแล้ว  เราน่าจะมีอะไรๆมาแมทช์กับลายถักซักอย่างนะ   เราแนะนำนี่เลย!! ‘เล็บลายถักไหมพรม’   เข้ากับเสื้อ เข้ากับอากาศหนาวสุดๆ  รับรอง

ลายนูนขึ้นมาแบบ 3D

6

มีลายสก็อตด้วย  น่ารักอ่ะ!!5


หรือจะสีสวยหวานสไตล์พาสเทล  ตัดกับบรรยากาศหม่นๆของหน้าหนาว4


คุมโทนด้วยสีขรึม  แต่แอบมีลูกเล่นด้วยสีทองระยิบระยับสำหรับนิ้วก้อย3


หรือจะเน้นสีตุ่นๆทึมๆเข้ากับสีเสื้อไปเลยก็ได้2


สีขาวล้วนเพิ่มลายถัก  เข้ากับบรรยากาศ1

หนาวนี้เล็บใครยังว่างๆ  อย่าลืมเล็บลายไหมพรมถักนะจ๊ะ  จะได้ดูเป็นสาวหวานอบอุ่นยันเล็บเลย!
ที่มา   cosmopolitan

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

"กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก"

กลิ่นปากที่มีสาเหตุมาจากภายนอกช่องปาก มีเพียงประมาณร้อยละ 10-20 ของผู้ที่มีกลิ่นปากเท่านั้น 

ปัญหาของระบบทางเดินอาหารอาจจะทำให้เกิดกลิ่นออกมาในทางเดินอาหารย้อนกลับขึ้นมาเป็นเกิดกลิ่นปากได้ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ
 
การเคี้ยวอาหารที่ไม่ละเอียดพอทำให้กระเพาะอาหารต้องใช้เวลาในการย่อยอาหารนานขึ้นเมื่ออาหารอยู่ในกระเพาะนานเกินไป จะเกิดก๊าซขึ้น ทำให้เกิดอาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง เรอออกมามีกลิ่นของน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร และกลิ่นจากอาหารภายในกระเพาะอาหารอยู่ในช่องปาก โรคกรดไหลย้อนจะทำให้อาหาร น้ำย่อยและกรดภายในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาด้านบนทางหลอดอาหารเข้าสู่ลำคอ ผู้ป่วยจะมีอาการเรอเปรี้ยว เจ็บ หรือแสบบริเวณหน้าอก เสียงแหบ ไอ มีเสมหะในลำคอ และทำให้มีกลิ่นปากได้ 

อาหารรวมถึงเครื่องเทศหลายชนิดมีกำมะถันเป็นองค์ประกอบ เมื่อถูกย่อยจะเกิดก๊าซที่มีกำมะถันซึ่งทำให้เกิดกลิ่นได้ ยกตัวอย่างอาหารที่เป็นสาเหตุ เช่น กระเทียม ต้นหอม หัวหอม สะตอ ทุเรียน ขึ้นฉ่าย ฯลฯ รวมทั้งอาหารประเภทโปรตีนทุกชนิด เช่น เนื้อสัตว์ เมื่อรับประทานอาหารเข้าไปร่างกายจะย่อยสลายอาหารเป็นสารโมเลกุลเล็กๆ ไหลเวียนไปส่วนต่างๆ ของร่างกาย และขับออกมาทางน้ำลาย เหงื่อ ปัสสาวะ ซึ่งทำให้มีกลิ่นได้

วิธีการแก้ไขนั้น เริ่มตั้งแต่ปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหาร โดยการเลือกรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น ลดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ลง นอกจากจะช่วยลดกลิ่นปากแล้ว ยังส่งเสริมให้มีสุขภาพแข็งแรง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร ผัก ผลไม้ เครื่องเทศที่มีกลิ่น ปรับพฤติกรรมการเคี้ยวอาหารให้นานขึ้น เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน เมื่อรับประทานอาหารอิ่มแล้วไม่ควรล้มตัวลงนอนราบ ควรรอสัก 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้อาหารย่อยและไหลผ่านกระเพาะอาหารไปก่อน ไม่ดื่มน้ำเยอะเกินไปขณะรับประทานอาหาร เพราะน้ำจะไปเจือจางกรดในกระเพาะอาหารทำให้การย่อยอาหารช้าลง เกิดอาการท้องอืดได้

หากพบทันตแพทย์และรักษาสาเหตุในช่องปากจนครบทุกอย่างแล้วยังมีกลิ่นปากอยู่การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารอาจช่วยลดกลิ่นปากลงได้แต่หากมีอาการของโรคกรดไหลย้อนควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
ที่มา นสพ.มติชน

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558

"เป็นหวัดหน้าหนาว"


ไข้หวัด เป็นการติดเชื้อของจมูกและคอ ส่วนใหญ่ 75-80% เกิดจากเชื้อไวรัส เมื่อเชื้อเข้าสู่จมูกและคอจะทำให้ยื่นจมูกบวมและแดง มีการหลั่งของเมือกออกมา แม้ว่าจะเป็นโรคที่หายเองใน 1 สัปดาห์ แต่เป็นโรคที่ไปพบแพทย์มากที่สุด

โดยเฉลี่ยจะเป็นไข้หวัด 6-12 ครั้งต่อปี และผู้หญิงเป็นหวัดบ่อยกว่าผู้ชาย

 
อาการ

มีการจามและน้ำมูกไหลนำมาก่อน อ่อนเพลียปวดศีรษะเล็กน้อย แต่มักไม่ค่อยมีใข้ เชื้อจะออกจากทางเดินหายใจ2-3 ชั่วโมง บางรายเยื่อบุตาอักเสบ เจ็บคอกลืนลำบาก โรคมักเป็นไม่เกิน 2-5 วัน แต่อาจมีน้ำมูกไหลนานถึง 2 สัปดาห์ อาจจะรุนแรง และมักมีการแพร่ไปเป็นหลอดลมอักเสบ ปวดบวม เป็นต้น

การติดต่อ

 

โรคนี้มักจะระบาดในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากความชื้นต่ำและอากาศเย็น สามารถติดต่อจากน้ำลายและเสมหะ นอกจากนั้นมือที่เปื้อนเชื้อโรคก็สามารถทำให้เกิดโรคได้ โดยผ่านทางจมูกและตา ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้ก่อนเกิดอาการและ 1-2 วัน หลังเกิดอาการ

การติดต่อที่พบได้บ่อย

1.มือที่สัมผัสเชื้อจากเสมหะของผู้ป่วย หรือสิ่งแวดล้อมแล้วขยี้ตา หรือเอาเข้าปากหรือจมูก

2.หายใจเอาเชื้อที่ผู้ป่วยที่ไอออกมา       

3.หายใจเอาเชื้อที่กระจายอยู่ในอากาศ

การรักษา


-ไม่มียารักษาเฉพาะ ถ้ามีไข้ให้ยาลดไข้ para cetamol ห้ามใช้ Aspirin

-ให้ยาช่วยรักษาตามอาการ เช่น ยาลดคัดจมูก ลดน้ำมูก ยาแก้ไออ่อนๆ

-ให้นอนพัก และดื่มน้ำมากๆ

โดยทั่วไปจะเป็นมาก 2-4 วัน หลังจากนั้นจะดีขึ้น
ในคนที่มีโรคแทรกซ้อนที่สำคัญคือหูชั้นกลางอักเสบ ต้องได้รับยาปฏิชีวนะรักษา
 
การป้องกัน



-หลีกเลี่ยงที่ชุมชน เช่น โรงภาพยนตร์ ภัตตาคาร

-ไอหรือจามให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือทิชชูปิดปาก

-ให้ล้างมือบ่อยๆ

-ไม่เอามือเข้าปากหรือขยี้ตา เพราะอาจนำเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้

-อย่าอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นหวัดเป็นเวลานาน


เป็นการยากที่จะป้องกันการติดเชื้อไข้หวัด ดังนั้นการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ที่มา  หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

"เครื่องดื่มสลายหน้าท้อง"

 
ศัตรูตัวฉกาจของผู้หญิงคงหนีไม่พ้นไขมันส่วนเกิน ที่ส่วนใหญ่จะเกิดบริเวณหน้าท้อง ทำให้สาวๆ หลายคนหมดความมั่นใจในการอวดหุ่นสวย วันนี้เลยมีเครื่องดื่มสลายหน้าท้องมาเสิร์ฟให้คุณได้ชิมกัน
 
 
น้ำเปล่า 
 
 
หากคุณต้องการจะลดน้ำหนัก การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย ช่วยลดอาการบวมน้ำที่เป็นสาเหตุให้ท้องอืดป่อง และยังช่วยให้คุณรู้สึกอิ่ม จึงทำให้กินน้อยลง แต่ถ้าคุณไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า ลองเพิ่มรสชาติด้วยการใส่สมุนไพรสด มะนาว ผลไม้ ก็สามารถช่วยให้คุณดื่มน้ำได้มากขึ้น
 
 
สมูธตี้แตงโม 
 
 
เครื่องดื่มชนิดนี้จะช่วยให้ร่างกายคุณ ชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสมูธตี้แตงโมที่มีแคลอรีต่ำเพียง 56 แคลอรีต่อแก้ว เนื่องจากแตงโมจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่มาก มีไลโคปีนที่ช่วยต้านมะเร็ง รวมถึงกรดอะมิโนอาร์จินีน ซึ่งมีการศึกษาชี้ว่าสามารถช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อเรียว จึงช่วยให้หน้าท้องของคุณแฟบลงนั่นเอง
 
 
เฟรปเป้สับปะรด 
 
 
สับปะรด มีสารโบรมีเลน ซึ่งเป็นเอนไซม์ ที่ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้การย่อยอาหารง่ายขึ้น ช่วยลดอาการท้องอืด นอกจากนี้การใส่น้ำมันเมล็ดแฟล็กซ์ ซึ่งมีไขมันโมเลกุลเดี่ยวไม่อิ่มตัวก็จะช่วยให้หน้าท้องแบนราบ
 
 
ชาเขียว 
 
 
นอกจากลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งและโรคหัวใจ ชาเขียวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ตัวหนึ่งชื่อว่า ‘คาเตชิน’ ซึ่งช่วยลดไขมันบริเวณหน้าท้อง ถ้าคุณจิบชาเขียวก่อนออกกำลังจะช่วยเพิ่มอัตราเผาผลาญในระหว่างออกกำลังกายได้
 
ชามิ้นต์ใส่น้ำแข็ง 
 
 
รสเย็นของมิ้นต์จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น ช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราย่อยสลายไขมัน แม้แต่อาหารไขมันสูงอย่างเบอร์เกอร์ หรือสเต๊กก็จะถูกย่อยอย่างรวดเร็ว และลดอาการท้องอืดได้อีกด้วย
 
 
ที่มาข้อมูล : นิตยสารเปรียว

"แผนการกินเพื่อหุ่นฟิตเฟิร์ม"

ออกกำลังเสร็จก็ถึงเวลาเติมพลังและเสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วยอาหาร และนี่คือแผนการกินของอลิซ่า เฮนส์ลีย์ (Alisa Hensley) ที่ช่วยให้ภารกิจของเธอลุล่วงทันเวลาถ่ายทำ *อลิซ่า เฮนส์ลีย์ (Alisa Hensley) สาวสวยดีกรีเก่งกาจขนาดเป็นนักเทควันโดสายดำ มีทรวดทรงเทียบเท่าดาวดังระดับโลกที่ร้อนแรงที่สุด และยังเป็นนักแสดงแทนฉากบู๊ในหนังแอ๊กชั่นที่ล้วนแต่ดังเปรี้ยงปร้างของวงการ 

มื้อ เช้า ออมเล็ตไข่ขาว 1 ฟองและอกไก่ย่างเลาะหนังออก ทั้งไข่และไก่มีโปรตีนสำคัญ ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายหลังออกกำลังกาย ไก่มีฟอสฟอรัสซึ่งจำเป็นต่อประสาทส่วนกลาง   ของว่างยามสาย มูสลี่ 30 กรัม และบลูเบอร์รี่สด 1 กำมือ มูสลี่มีไฟเบอร์สูง ดีต่อระบบทางเดินอาหาร แต่ต้องแน่ใจว่าคุณเลือกยี่ห้อที่ไม่ผสมน้ำตาลมาก  

มื้อ กลางวัน ทูน่าสเต๊กและสลัดหน่อไม้ฝรั่ง สาวใดอยากสร้างกล้ามเนื้อ ทูน่าคือตัวเลือกอันดับต้น ๆ เลยค่ะ เพราะมีโปรตีนและโอเมก้า 3 สูง หน่อไม้ฝรั่งมีสารลดอาการอักเสบและวิตามินเคเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง อลิซ่าเติมมะกอก โหระพา และมะเขือเทศในสลัดด้วยเพื่อเพิ่มวิตามินที่ช่วยเร่งการเผาผลาญ   ของว่างยามบ่าย โปรตีนเชค เลือกเวย์โปรตีนที่ไม่มีสารให้ความหวานหรือเคมีสังเคราะห์ เพื่อเพิ่มสารอาหารอย่าลืมเติมเนยถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ เขย่าให้เข้ากัน ใส่กล้วยและทับทิมลงไปจะได้อยู่ท้องนาน ๆ และเสริมสารต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย  

มื้อ เย็น เบอร์เกอร์ไก่ไร้มันและมันหวานเผา เนื้อไก่อุดมด้วยไดเปป์ไทด์ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ลดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ป้องกันการปวดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย มันหวานมีโพแทสเซียมสูงซึ่งจำเป็นต่อการยืดหดตัวของกล้ามเนื้อ อลิซ่าเหยาะน้ำมันมะกอกเล็กน้อย โรยผงพริกเพิ่มรสชาติอีกนิด เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญ   

ที่มา นิตยสาร Women’s Health ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2014

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อินเทรนด์ฝุดๆ ผมสีควันบุหรี่

โขวโบกเบย...ว่าตอนนี้เดินไปทางไหนก็เจอแต่ ผมสีควันบุหรี่ ซึ่งสามารถปรับระดับความสว่างได้หลายเฉดตามต้องการ 
แต่ถ้าใครอยากสวยแต่ยังดูไม่เปรี้ยวเกินไป ก็เลือกเทาหม่นเฉดเข้มๆ หน่อย แต่ถ้าใครเป็นสาวเปรี้ยวมั่นอยากเกิดขั้นสุด จัดเต็มสีควันบุหรี่อ่อนๆ กันไปเลยเนอะ
นอกจากนี้ยังพลิกแพลงให้เป็นเฉด Ombre ไล่สีในหัวเดียว หรือจะเพิ่มไฮไลท์ โลว์ไลท์ลงไป โอ๊ยย บอกเลยแค่สีควันบุหรี่สีเดียว งานนี้เปรี้ยวได้หลายลุคแน่นอน! ส่วนใครที่กำลังชั่งใจว่าจะทำผมสีควันบุหรี่ดีหรือเปล่า เราเอาตัวอย่างสวยๆ มายั่วกัน

ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ผมสีควันบุหรี่
ขอบคุณภาพจาก lifebyhugopinterestsmallnhotvoguenicolekisssalonvim

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558

"เป็นหวัดไม่กินยาหายได้เองหรือไม่"


เป็นหวัด เจ็บคอ มีไข้จำเป็นต้องกินยาปฏิชีวนะทุกครั้งถูกต้องหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ถูกต้องและเป็นการใช้ยาที่ไม่สมเหตุสมผล เพราะอาการเจ็บคอเกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุคือ
1. เกิดจากการติดเชื้อไวรัส (ไม่ต้องกินยาปฏิชีวนะ)
2. เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย(รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ)
หวัดเจ็บคอส่วนใหญ่เป็นเพราะติดเชื้อไวรัส การกินยาปฏิชีวนะจึงไม่ทำให้หายป่วย เพราะยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อไวรัสไม่ได้และยังมีโอกาสเสี่ยงอันตรายจากผลข้างเคียงของยาต่อร่างกายด้วย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ? ติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย
คำตอบ คือ อาการเจ็บคอส่วนใหญ่ (8 ใน 10 ราย) เกิดจากเชื้อไวรัส โดยจะมีอาการต่อมทอนซิลบวมแดง คอแดงทำให้เจ็บคอ อาจมีอาการไอร่วมด้วยถ้าเป็นแบบนี้ไม่ต้องกินยาปฏิชีวนะก็หายได้ การติดเชื้อแบคทีเรีย(ซึ่งพบน้อยกว่าจะมีคอแดง ต่อมทอนซิลบวมแดงและเจ็บคอ มีข้อแตกต่างจากเจ็บคอจากเชื้อไวรัส คือ มีจุดหนองที่ต่อมทอนซิล มีฝ้าสีเทาที่ลิ้น และมักจะคลึงพบต่อมน้ำเหลืองบริเวณใต้ขากรรไกรโต และ จุดแตกต่างที่สำคัญที่สังเกตได้ง่าย คือ มักจะไม่มีอาการไอ
หวัดเจ็บคอจากเชื้อไวรัส รักษาอย่างไร ?
คำตอบ คือ ทุกคนมีภูมิต้านทานของร่างกายที่เอาชนะเชื้อไวรัสได้อยู่แล้ว แต่ในช่วงที่ไม่สบายเราอาจมีอาการเป็นไข้ ปวดศรีษะ ปวดตามตัว ไอมีน้ำมูกหรือเสมหะและรู้สึกเพลียในช่วงเวลานี้ ให้รู้ไว้ว่า “พระเอกอย่างภูมิต้านทาน” กำลังต่อสู้กับเชื้อไวรัสอยู่ ส่วนยาแก้คัดจมูกและยาลดไข้คือ “ผู้ช่วยพระเอก” นั่นเอง ที่จะทำให้เราทุเลาอาการเหล่านี้จนกว่าพระเอกจะปราบเชื้อไวรัสได้หมด ซึ่งมักใช้เวลา 3 –4 วัน เป็นอย่างน้อย
หวัดเจ็บคอจากเชื้อไวรัส หายเองได้จริงหรือ คำตอบนี้ขอมุ่งไปที่วิธีการรักษาโรคหวัดที่ดีที่สุด คือ ดื่มน้ำอุ่น และการพักผ่อน เพราะจะทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว ยาปฎิชีวนะไม่ช่วยบรรเทาอาการ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ไอ จาม ปวดหัว ครั่นเนื้อครั่นตัว
นอกจากนี้ การกลั้วคอด้วยน้ำเกลือจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอหรือระคายเคืองในคอของเราได้ การทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้ภูมิต้านทานร่างกายของเราแข็งแกร่ง เพียงไม่กี่วันเชื้อไวรัสหวัดก็จะต้องล่าถอยไปเอง
ที่มา ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

"ผู้ชายแบบไหนที่ผู้หญิงไม่อยากเข้าใกล้"


ผู้ชายแบบไหนบ้างล่ะ? ขณะขับรถยังไม่ทันจะถึงที่หมาย เธอก็อิดออดอยากจะขอตัวกลับบ้าน โดยอ้างว่าติดธุระ ต่อไปนี้คือพนักงานขับรถชายที่สาวๆ ไม่ปรารถนาจะนั่งไปด้วย
ผู้ชายติดการพนัน
ถึงท่านชายจะเป็นคนชอบความเสี่ยง แต่ถ้าเสี่ยงแบบหมดตัว งานนี้ก็คงไม่ไหว แถมยังมีหนุ่มบางรายมาขอยืมเงินสาวๆ และพนันกับเธอต่อว่าจะหามาใช้คืนได้แน่ๆ ไม่เชื่อก็มาพนันกันไหมล่ะเธอ!! อนาคตก็คงต้องตามลุ้นกันไปตลอด เพราะขาข้างหนึ่งของเขาก็ก้าวอยู่บนสถานีตำรวจอยู่ตลอดเวลา  

ผู้ชายหลายใจ 
แบบนี้สาวไหนก็ไม่อยากเข้าใกล้ แต่บางครั้งก็มีผู้หญิงใจกล้า หรือจะเรียกอีกอย่างว่าแมงเม่าที่ชอบบินเข้ากองไฟ คอยลุ้นว่าเธอจะมาพิชิตใจ หรือกำราบเขาได้สำเร็จหรือไม่ หรือเป็นเทพธิดามาปลดแอกให้เขาเลิกเจ้าชู้ได้ สุดท้ายก็รับรู้ว่าความจริงว่า ความเจ้าชู้ไม่เคยปราณีผู้หญิงรายใดในโลก 

พ่อม่ายลูกติด 
ถ้าเธอกำลังคิดจะยุ่งกับผู้ชายประเภทนี้ เธอจะถามตัวเองก่อนเสมอว่า เธอพร้อมจะมีลูกเลี้ยงแล้วใช่ไหม เพราะปัญหาที่จะตามมาคือ แม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงนั้น ความปรองดองของทั้งสองคนนี้มักไม่ค่อยมีอยู่จริง! 
ผู้ชายถังแตก
คลองตำแหน่งราชาเงินผ่อนมานานหลายปี จนคุณผู้หญิงขอเฝ้าติดตามไม่ไหว ว่ากันตามจริงเธอก็ไม่อยากเป็นมเหสีของราชาเงินผ่อนนัก แถมยังมีหนี้นอกระบบอีกหลายรายการ ถ้าขยันก็ใช้หนี้แล้วไป เพราะผู้หญิงที่เข้าใจก็มีอยู่ แต่ถ้าไม่...ก็คงต้องขอต้อนรับความจริงอันโหดร้ายบางประการ 
ผู้ชายตกงาน
อันนี้เธออาจกำลังรอดูสถานการณ์ก่อนว่า ที่คุณผู้ชายเขาตกงานอยู่ เพราะกำลังตั้งหน้าตั้งตาหางานใหม่ที่เหมาะกับตัวเองอยู่หรือเปล่า หรือต้องการหาที่หาทางทำอะไรที่ดีกว่าเดิม อันนี้ถือว่าไม่เป็นภัยอนาคต แต่ถ้าฝ่ายชายตกงานแล้วยังนั่งนิ่งๆ นอนนิ่งๆ มันทั้งวัน พิมพ์สเตตัสก่นด่าว่าโชคชะตาไม่เข้าข้าง จนเธอเองก็ไม่อยากจะเข้าข้างเหมือนกับโชคชะตาเหมือนกัน เพราะว่าความเฉื่อยชาแบบนี้ สัณชาตญาณของความเป็นนักล่า หรือความเป็นหัวหน้าครอบครัวมันขาดหายไป
ที่มา fhm.in.th

"หน้าใสรับลมหนาว"


บ้านเรา ลมหนาวมา พาชื่นใจ แต่อากาศแห้งก็ทำร้ายผิวได้มาก ผิวใสจะกลายเป็นผิวขุย ต้องป้องกันหมดฝน เริ่มต้นฤดูกาลสดใสของบ้านเรา ทั้งท่องเที่ยวธุรกิจการค้า ต่างคึกคักดูดเงินจากกระเป๋าของเรา สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ต้องยับยั้งชั่งใจให้มาก แต่ความสวยความใสก็ต้องไม่ถอยหนี เพียงแต่เลือกซื้อเลือกใช้ให้เหมาะกับเงินในกระเป๋า

อากาศที่แห้ง ทำให้ความชุ่มชื้นของผิวลดลง วิธีการปฏิบัติตนให้ผิวใสรับหน้าหนาว

 
1.ดื่มน้ำให้เพียงพอ

    อากาศเย็น หลายคนลดการดื่มน้ำลง ไม่อยากเข้าห้องน้ำบ่อยๆ แต่อย่าลืมว่าน้ำคือส่วนประกอบสำคัญ 70% ของร่างกายเรา ดื่มให้พอเหมาะ ร่างกายจะปรับตัวเอง ดูว่าตัวเองดื่มน้ำเพียงพอไหม ให้ดูจากสีปัสสาวะ ถ้าเข้มเหลืองเกินไป แปลว่า ร่างกายคุณต้องการน้ำ เซลล์ที่ไม่ขาดน้ำก็ทำให้ผิวเราไม่แห้งไม่ตึงโดยธรรมชาติ

2. ฉลาดเลือกครีมบำรุง
 
ครีมทาผิว ครีมทาหน้า ราคาถูกมากๆ หรือราคาปานกลางมักจะมีส่วนผสมของน้ำมันปิโตรเลียมที่เรารู้จักกันดีว่า Mineral Oil น้ำมันแร่ หน้าที่ของมันคืออุดปิดผิวเราเคลือบด้วยน้ำมัน แต่ไม่ได้ทำให้ผิวเราชุ่มชื้นขี้นมาเลย คุณทาแล้วอาจต้องทาซ้ำ โดยรวมอาจเปลืองกว่าครีมที่ราคาสูงกว่า ควรเลือกครีมบำรุงที่ระบุส่วนผสมสำคัญ เช่น Humectant กรดไฮยารูโลนิค ซึ่งเป็นสารสำคัญในการสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยดึงเอาความชื้นจากอากาศ (ที่มีอยู่น้อยในหน้าหนาว) มาสู่ผิวเรา
 
 
3. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น
 

หน้าหนาวแบบนี้ เครื่องทำน้ำอุ่นมีโปรโมชั่นล่อใจมากมาย ลองถามคนที่เคยใช้แล้วสิ จากนั้นก็จะหายอยาก การอาบน้ำอุ่นให้ความสบายในขณะอาบ แต่ทำลายความชุ่มชื้นของผิวมหาศาล หน้าหนาวอากาศแห้งอยู่แล้ว อาบน้ำอุ่นซ้ำเข้าไปอีกคงได้แห้งกันแบบตกสะเก็ดแน่ เครื่องทำน้ำอุ่น ต้องเดินสายดินให้ปลอดภัย ส่วนเครื่องทำน้ำร้อนก็เป็นตัวกินไฟอย่างร้ายกาจ เอาเงินที่จ่ายไปซื้อครีมบำรุงดี ๆ หรือวิตามินเสริมดูจะคุ้มค่ากว่านะ

4. ครีมกันแดดจำเป็นที่สุด
 

เลิกคิดว่าครีมกันแดดมีหน้าที่แค่กันไม่ให้หน้าดำ แต่หน้าที่หลักของมันคือ ปกป้องตัวทำให้ผิวเราเหี่ยวย่นก็คือ UVA เป็นตัวอนุมูลอิสระเร่งให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและสร้างริ้วรอยได้อย่างรวดเร็ว

หน้าหนาว ท้องฟ้าโปร่ง แดดแรงกว่าปกติ พลาดลืมกันแดด หน้าใส ๆ ที่เคยภูมิใจอาจกลายเป็นเปาบุ้นจิ้นได้ในพริบตา


5. เลือกเสริมวิตามิน

 
สำหรับคนที่พิถีพิถันกับผิวมากขึ้นไปอีก ความสวยใสจากภายในก็สามารถเลือกเสริมได้ อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินสำหรับผิว เช่น วิตามินอี แต่ถ้าอยากจะเสริมก็สามารถเพิ่มได้ วิตามินอี 200-400 IU ต่อวันหรือถ้าจะให้เกิดประโยชน์ได้หลายขนาน โอเมก้า 3 ก็เป็นตัวครอบจักรวาลเพราะผิวก็ใส หลอดเลือดก็สะอาด สมองก็แจ่มใส ผิวจะชุ่มชื้นขึ้นมาทันที

    แต่สำหรับอีฟนิ่ง พริมโรส ไม่แนะนำให้กินอีกแล้วเพราะมีผลงานวิจัยหลัง ๆ มา บอกถึงผลเสียมากกว่าผลดี ทั้งนี้เพราะเรากินอาหารที่อุดมด้วยไขมันพืช สูงกว่าสมัยก่อน โอเมก้า 6 ในพริมโรส ราได้เพียงพอไม่ขาดแล้ว
6. ครีมบำรุงก่อนนอนต้องมี
หน้าหนาวอากาศดี อาจจะไม่ได้เปิดแอร์นอน แต่จะเปิดหรือไม่เปิดก็ตาม อย่าปล่อยให้ผิวถูกทำลายความชุ่มชื้นในเวลาพักผ่อน เลือกครีมบำรุงที่ดีเหมาะกับผิว ที่เข้มข้นพอเหมาะ ดูง่ายๆว่าเหมาะหรือไม่ ตื่นนอนส่องดูหน้า ถ้าหน้ามันก็อาจจะใช้ครีมหนักไป หรือเข้มข้นเกินไป แต่ถ้าตื่นมาหน้าแห้ง ก็แสดงว่าความชุ่มชื้นที่ได้จากครีมไม่พอ ต้องเติม

     ลองนำไปปฏิบัติตัวรับหน้าหนาว เป็นฤดูกาลที่ทุกคนเบิกบาน ถ้าปล่อยใบหน้าเป็นขุย ลอก แล้วจะไปโชว์ใครที่ไหนได้ คนใกล้ตัวเขาจะหนี คนห่างตัวก็ไม่มอง แล้วจะโทษใครดี

 

ตัลล๊ากกกก!!! รักลงตัวของแดน วรเวช กับแพทตี้ อังศุมาลิน