อยากผิวสวยๆๆ แบบไม่ไหวแล้ว พูดกับตัวเองทุกวัน ไม่ต้องไปขอพรพระ หรือบนบานอะไรกับใครหรอกนะ ลองกลับมาดูที่นิสัยการดูแลผิวของตัวเองจะดีกว่า แล้วบวกกับความเข้าใจผิดที่ฟังต่อๆ กันมาอีกแล้วเมื่อไรผิวจะไปสวยได้ อย่างนี้มาเคลียร์กันให้กระจ่างกับ 10 ความจริงที่หมอผิวหนังเขามาบอกจะดีกว่า #งานผิวสวยมาแน่ #แม่หมอคอนเฟิร์มฮ่ะ
1. ไม่ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านเพราะคิดว่าเป็นการทำให้ผิวอุดตัน
ความเชื่อนี่มันควรจะหมดไปจากโลกใบนี้ตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วนะ คิดได้ยังไงคะ แสงแดดเนี่ยให้ผลร้ายกับผิวเรามากกว่าเรื่องสิวอุดตันอีก แล้วเดี๋ยวนี้ครีมกันแดดเขาก็มีสูตรบางเบา สูตร oil free แบบไม่อุดตันขายเพียบเต็มไปหมดแล้วค่า
2. ขัดผิวเบาๆ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งดีกับผิวที่สุด
ย้ำนะคะว่าเบาที่สุด ควรเลือกแบบเป็น Exfoliating แบบเม็ดละเอียดๆ หรืออาจจะเป็นแบบธรรมชาติที่เราทำขึ้นมาเองก็ได้ แล้วขัดเป็นวงกลมวนเบาๆ ทั่วใบหน้า จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เพื่อให้ผิวพร้อมรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่
3. ลงทุนกับแปรงล้างหน้าดีๆ
สักอันยอมลงทุนไปเลย เพราะหมอผิวหนังบอกว่ามันคือนวัตกรรมที่สุดเริดที่ช่วยคลีนผิวให้ลึกถึงรูขุมขนได้อย่างอ่อนโยนในทุกวัน “ฉันรักแปรงล้างหน้ามาก และคิดว่าเป็นสิ่งที่สาวๆ ทุกคนควรจะมีติดไว้เลย มันช่วยจัดการกับปัญหาเรื่องสิวอุดตันจากการล้างหน้าไม่สะอาดไปได้แบบปลิดทิ้งเลยล่ะ” Ginny Hubbard หมอผิวหนังจากอังกฤษเขาบอกไว้
4. เลิกสักที นิสัยทดลองโปรดักส์ไปเรื่อย
หมอผิวหนังทุกคนบอกว่า เบื่อกับการที่คนไข้วิ่งแจ้นมาหาหมอแล้วบอกว่า “แพ้เครื่องสำอางมาค่ะ” เพราะเกิดจากการอยากทดลองของใหม่ หรือใครบอกว่าดีก็อยากใช้ตามบ้าง ซึ่งจริงๆ แล้วทุกคนควรที่จะรู้จักผิวของตัวเองให้ดีที่สุดว่าตัวเองมีผิวเป็นยังไง เซนซิทีฟมากน้อยแค่ไหน และปัญหาคืออะไร แล้วที่สำคัญคือให้เวลากับโปรดักส์บ้าง ไม่ใช่พอใช้ได้ 2-3 วันแล้วยังไม่ดีขึ้นก็เลิกใช้ละ ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างบนโลกใบนี้ควรให้เวลาอย่างน้อย 2-4 อาทิตย์ถึงจะเห็นผลนะคะ จำกันเอาไว้โหน่ยยย
5. เลเซอร์ไม่ได้ดีกับผิวเสมอไป
หลายคนที่พอผิวหนังพังมาก็อยากจะให้ผิวกลับมาดีเหมือนเดิมเร็วๆ ก็มาหวังพึ่งกับเลเซอร์นี่แหละ ซึ่งหมอผิวหนังอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจกันใหม่หน่อยว่า เลเซอร์ไม่ใช่ไม้คทาศักดิ์สิทธิ์ของเซเลอร์มูน ที่ยิงปุ๊บ สวยปั๊บ ทุกอย่างต้องใช้เวลา ยิ่งเลเซอร์บางตัวยิ่งแล้วจะทำให้ผิวเบิร์น ก็ต้องดูแลผิวให้ดียิ่งกว่าเดิมไปอีก ซึ่งบางครั้งหมอผิวหนังถึงกับบอกเลยว่า ใจเย็นๆ ปล่อยให้ผิวรักษาตัวมันเอง ทาครีม ป้องกันแดด ก็กลับมาสวยได้เหมือนกันแล้ว #อย่าใจร้อนกันนักเลย#หมอเพลีย
6. ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์แบบครบทั้งไลน์ก็ได้
เข้าใจนะว่าเวลาไปซื้อเครื่องสำอางทีไร คุณนาย B.A ก็จะมาชักแม่น้ำหว่านล้อมนู่นนี่ว่าต้องใช้ยกเซตถึงจะได้ผล แต่หมอผิวหนังบอกเลยว่าไม่จำเป็นค่า เอาเป็นว่าเราอยากใช้ไวเทนนิ่งเพื่อผิวขาว เราอาจจะเลือกใช้แต่เซรั่ม ส่วนมอยส์เจอร์ไรเซอร์เราก็เลือกเอาแบบให้ผิวชุ่มชื่น หรืออาจจะเลือกเป็นเอนไทน์เอจจิ้งไปเลยก็จะได้ผลลัพธ์กับผิวที่ครอบคลุมกว่า
7. ไม่มีการล้างหน้าแบบไหนที่ไม่ใช้น้ำได้
เดี๋ยวนี้การคลีนเครื่องสำอางด้วยสูตรน้ำที่เป็นไมเซลล่ามาแรงกันเหลือเกิน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ชอบเคลมว่าไม่ต้องล้างน้ำตามได้ แต่งานนี้หมอผิวหนังขอกรี๊ดใส่เลยว่าไม่ได้ค่า ไม่มีการล้างหน้าแบบไหนที่ทดแทนการล้างด้วยน้ำสะอาดได้ ถ้านานทีๆ แบบคืนที่เหนื่อยจริงๆ ก็พอไหว แต่ถ้าทุกวันเนี่ยผิวพังค่ะ
8. โบกมอยส์เจอร์หนาๆ ไม่ใช่ทางแก้ผิวแห้งที่ถูกต้อง
บางคนเจอกับปัญหาผิวแห้งก็ชอบคิดว่าทามอยส์เจอร์ไรเซอร์พอ แต่ยิ่งโบกหนาเข้าไปอีก อยากบอกว่าทำแบบนี้อาจเจอปัญหาผิวแห้ง + สิวอุดตันไปอีก เพราะว่าผิวสามารถดูดซึมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้แค่ระดับนึง ที่เหลือก็จะผลักออกมากลายเป็นความมันส่วนเกิน เพราะฉะนั้นถ้าเจอกับปัญหาผิวแห้งลองหาสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งก่อนแล้วแก้ให้ถูกจุดจะดีกว่า
9. ผลิตภัณฑ์ไวเทนนิ่งมีผลต่อการรักษาสิว
ท่องไว้เลยว่าถ้าช่วงไหนผิวเกิดเจอสิวบุกแบบศึกหนัก ขอให้หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นไวเทนนิ่งไปก่อนเลย ถึงแม้จะเป็นโปรดักส์ที่ใช้อยู่เป็นประจำก็ตาม เพราะหมอผิวหนังบอกว่า “พวกผลิตภัณฑ์ไวเทนนิ่งจะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้สิวยิ่งขึ้น ถ้าช่วงนั้นผิวอยู่ในช่วงอ่อนแอ เก็บเอาไว้ใช้ตอนที่สิวหาย หรือรักษารอยดำดีกว่า”
10. ไม่มีเลเซอร์เย็นแบบไหนที่รักษาสิวอุดตันได้ตลอดไป
หยุดเชื่อกับคอร์สเลเซอร์แบบเย็นต่างๆ ที่มาขายฝันนู่นนี่ว่าช่วยจัดการสิวอุดตันได้ตลอด ในตอนแรกก็ช่วยลดได้จริง แต่พอไปสักพักมันก็ขึ้นมาอีก เพราะเลเซอร์ไม่ได้ไปรักษาที่ต้นตอของการเกิดเหตุ แถมหลังจากเลเซอร์ผิวก็จะไวต่อแสงแดดมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
ที่มา - Cleo Thailand
www.cleothailand.com
www.cleothailand.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น