วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

"มะเร็งปากมดลูก"



ทุกๆ 2 นาที จะมีสตรี 1 คนเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูก 
สำหรับประเทศไทยจากรายงานของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของสตรีไทยโดยคิดเป็น 20.14 % จากจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งทั้งหมด มีอัตราการเสียชีวิตของสตรีที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกประมาณ 10 คน/วัน หรือประมาณ 4,000 คนต่อปี จากผลการศึกษาและวิจัยพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกจำนวน99.7% มีสาเหตุมาจากไวรัส HPV (Human Papilloma Virus)

HPV (Human Papilloma Virus) เป็นไวรัสที่ส่วนใหญ่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ส่วนน้อยติดต่อทางการสัมผัส มักพบบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของสตรีบริเวณปากมดลูก ช่องคลอดและอวัยวะเพศ ไวรัส HPV ที่สามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์นั้นมีมากกว่า 50 สายพันธุ์ โดยสามารถแบ่งสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ

1. กลุ่มที่ไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น สายพันธุ์ 6 และ 11 ซุ่งเป็นสาเหตุของโรคหูดหงอนไก่

2. กลุ่มที่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น สายพันธุ์ 16,18,31,33 และ 45 ซึ่งทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์มะเร็งปากมดลูกจนอาจกลายเป็นมะเร็งได้

อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปากมดลูก ตั้งแต่เริ่มต้น ได้รับไวรัส HPV จนเกิดมะเร็งปากมดลูกจะใช้เวลานานโดยเฉลี่ยมากกว่า 10 ปี

HPV DNA ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปากมดลูก

ทำไมจึงต้องตรวจหาไวรัส HPV 

มีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าไวรัส HPV เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกในเกือบทุกราย จากรายงานการศึกษาวิจัยทั่วโลกพบว่า HPV DNA TESTING ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจทางด้านชีวโมเลกุลมีความไวในการตรวจมากกว่า 90% ทำให้สามารถตรวจพบไวรัสที่ก่อให้เกิดความผิดปกติของเซลล์บริเวณปากมดลูก ซึ่งจะช่วยค้นหาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มแรกและแพทย์จะรักษาให้หายขาดได้โดยง่ายก่อนที่มะเร็งปากมดลูกจะเกิดขึ้

* การตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกในระยะเริ่มแรกทำได้อย่างไร *

การตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกในระยะเริ่มแรกนั้นทำได้โดยการตรวจหา HPV DNA ร่วมกับการตรวจ Pap smear ด้วยวิธี Thin Prep ทุกๆ 1-3 ปี

* รู้ทันป้องกันตนเพื่อให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งปากมดลูก *

การเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากมะเร็งปากมดลูกหรือลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อเอชพีวี เป็นเรื่องสำคัญของผู้หญิงโดยมีแนะนำที่ทำได้ง่าย ๆ คือ

1. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ได้แก่ การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย,การมีคู่นอนหลายคนและการสูบบุหรี่

2. ดูแลรักษาร่างกายให้สุขภาพแข็งแรงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

3. ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไปและเคยมีเพศสัมพันธ์แล้วควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap Smear) เป็นประจำทุกปี เพื่อให้ทราบว่าเซลล์บริเวณปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติหรือไม่

4. การฉีดวัคซีนเอชพีวี เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีชนิดก่อมะเร็งซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก


ที่มา  รพ.สมิติเวช

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น