ผลการศึกษา
ของนักวิทยาศาสตร์สวีเดน ซึ่งใช้เวลาเก็บข้อมูลนานถึง 12 ปี ชี้ว่า
ผู้ชายที่ดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำหวานมากกว่า 2 แก้วต่อวัน
จะมีความเสี่ยงเกิดอาการหัวใจล้มเหลวมากขึ้น...
สำนักข่าว
ต่างประเทศรายงานว่า ดร. ซาซานนา ลาร์สสัน และคณะนักวิจัยของสถาบันการแพทย์
'แคโรลินสกา' ของประเทศสวีเดน
ทำการศึกษาเพื่อยืนยันความเชื่อมโยงระหว่างการดื่มน้ำหวานกับการเกิดหัวใจ
ล้มเหลว โดยศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ชายจำนวนประมาณ 42,000
คน เป็นระยะเวลาเฉลี่ยถึง 12 ปี
และถามชายเหล่านี้ว่าพวกเขาดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำหวานปริมาณเท่าใดต่อวันหรือ
ต่อสัปดาห์ เพื่อประเมินพฤติกรรมการดื่มของพวกเขา
รายงานการ
ศึกษาซึ่งเผยแพร่ในวารสาร 'บริติช เมดิคัล เจอร์นัล' ระบุว่า
ชายกว่าครึ่งไม่ดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน ขณะที่ประมาณ 1 ใน 6
ยอมรับว่าดื่มประมาณครึ่งแก้วต่อวัน และมีเพียง 1 ใน 7
ส่วนเท่านั้นที่ดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำหวานอย่างน้อย 2 แก้วขึ้นไปในแต่ละวัน
ขณะที่ผลการ
ศึกษาพบว่า ชายที่ดื่มน้ำหวานมากกว่า 2 แก้วต่อวันในระหว่างการศึกษา
มีโอกาสเกิดอาการหัวใจล้มเหลวมากกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม 23%
และระหว่างการศึกษาครั้งนี้มีผู้เกิดอาการหัวใจล้มเหลวรายใหม่ 3,600 ราย
อย่างไรก็ตาม ดร.ลาร์สสันระบุว่า
การศึกษานี้ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าการดื่มน้ำหวานเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการป่วย
ดังกล่าวหรือไม่
แต่ก็เป็นข้อความเตือนให้ผู้คนลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีรสหวานลง
นอกจากนี้
ลาร์สสันกล่าวด้วยว่า แม้การวิจัยนี้จะศึกษาแต่พฤติกรรมการดื่มของผู้ชาย
แต่ผู้หญิงก็มีความเสี่ยงเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีผลต่อความดันเลือด,
ระดับน้ำตาล, น้ำหนักตัว และทำให้เกิดโรคอ้วนด้วย
ที่มา รายการพบหมอรามา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น